วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

Phuket / ขนมไทย

Phuket / Information By Thaisho Tour
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียงฝั่งทะเลอันดามัน
ติดต่อที่ E-mail:thaishotour@hotmail.com


แนะนำขนมไทย

ขนมไทย ยังคงความอร่อย และเป็นเอกลักษ์เฉพาะของคนไทยที่ ใช้วัถุดิบและส่วนผสม ที่ได้มาจากธรรมชาติ พืชสวนที่มีอยู่ตามท้องถิ่นต่าง นำมาทำเป็นอาหารหวานได้อย่างลงตัว มีรสชาติที่ ขนมไทยที่ส่วนมากจะมีส่วนผสมของกะทิที่ทำมาจากมะพร้าวสด ๆ ให้ความหอม มัน รสชาติดี บ่งบอกความเป็นไทย
ขนมอาลัว
ส่วนผสม
1. แป้งสาลี 2 ถ้วยตวง
2. หัวกะทิ้ 2 ถ้วยตวง
3. น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
4. น้ำใบเตย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. ร่อนแป้งสาลี 2 ครั้ง
2. ใส่น้ำตาลทรายลงผสมกับแป้งสาลีที่ร่อนไว้เคล้าให้เข้ากัน

3. ใส่หัวกะทิทีละน้อยนวดให้น้ำตาลละลาย จนหัวกะทิหมด คนให้เข้ากันใส่น้ำใบเตย
4. ใช้ผ้าขาวบางกรองส่วนผสมใส่ในกระทะทอง ตั้งไฟกลางกวนเร็วๆ ให้แป้งสุก
5. เมื่อแป้งสุกแล้วพักไว้สักครู่ใส่กรวยบีบหรือหยอดตามต้องการนำอบด้วยไฟอ่อนจนผิวนอกของขนมแห้ง ยกลงจากเตารอให้เย็นแซะออกจากถาดจัดใส่ภาชนะ



มันสำปะหลังเชื่อม
มันสำปะหลัง 1 กิโลกรัม
น้ำตาลทราย 1/2 กิโลกรัม
น้ำ


วิธีทำ

1. ปอกเปลือกมัน ตัดเป็นท่อนๆ
2. เอามันใส่กระทะทอง ใส่น้ำให้ท่วม
3. ตั้งให้เดือด ใส่น้ำตาล เคี่ยวให้เหนียว

หมายเหตุ เวลาคนของเชื่อม ต้องค่อยๆ เขี่ยกลับ อย่าคนแรง ขนมจะขึ้นเป็นขุย และน้ำเชื่อมไม่ใส ไม่น่ารับประทาน



บ้าบิ่น

ส่วนประกอบ

ขนมบ้าบิ่นนั้นส่วนผสมหลักก็คือ แป้งข้าวเหนียว มะพร้าว ใบเตย น้ำตาล และเกลือ

วิธีการปรุง

นำแป้งข้าวเหนียวมาผสมน้ำพอควรระวังอย่าให้เหลวเกินไป แล้วจึงผสมด้วยมะพร้าวที่ขูดเป็นเส้นเล็ก ๆ (ถ้าเป็นชนิดใดก็ใส่วัสดุนั้นลงไป เช่น ชนิดใบเตย ก็ผสมด้วยน้ำใบเตยคั้น ชนิดมะพร้าวอ่อนก็ขูดมะพร้าวอ่อนผสมลงไป) แล้วให้เติมรสชาติตามต้องการ เช่น น้ำตาล เกลือ คลุกเคล้าจนเข้ากันดี พอให้แป้งสามารถจับตัวได้ ไม่แข็งและไม่เหลวจนเกินไป แล้วจึงนำแป้งที่ผสมแล้วนั้นไปใส่เบ้าวางบนกระทะหรือเตา จนกระทั่งขนมสุกเป็นอันใช้ได้


กล้วยไข่เชื่อม
กล้วยไข่ห่าม 8-10 ผล (ปอกเปลือกและบั้งตามขวาง)

* น้ำเปล่า 500 กรัม

* น้ำตาลทราย 400 กรัม

* น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ

* น้ำกะทิ 1/2 ถ้วยตวง (สำหรับทำน้ำกะทิราดหน้า)

* เกลือป่น 1/2 ช้อนชา (สำหรับทำน้ำกะทิราดหน้า)

วิธีทำกล้วยไข่เชื่อม
1. นำกระทะทองเหลืองไปตั้งบนไฟอ่อน จากนั้นผสมน้ำตาลทราย, น้ำเปล่า และน้ำมะนาวลงไป คนจนส่วนผสม ทุกอย่างเข้ากันดี

2. นำกล้วยที่ปอกแล้วลงไปเชื่อมในกระทะ เชื่อมจนสุกทั่ว โดยสังเกตุว่าผิวกล้วยจะใส ฉ่ำและเป็นเงา จากนั้นตักใส่จานเสริฟเตรียมไว้

3. ทำน้ำราดหน้าโดยผสมน้ำกะทิกับเกลือป่นเข้าด้วยกัน นำไปตั้งบนไฟอ่อนๆสักพัก ระวังอย่าให้กะทิแตกมัน

4. เวลาเสริฟ ราดน้ำกะทิบนกล้วยที่เชื่อมแล้ว สามารถเสริฟได้ทั้งขณะร้อน หรือเย็น
เคล็ดที่ไม่ลับใส่เปลือกไข่ไก่ ประมาณ 2 ลูก ลงไปต้มรวมกับกล้วยไข่ หลังจากเดือดจนกล้วยสุขแล้วนำเปลือกไข่ออก แล้วจึงใส่น้ำตาลลง วิธีนี้จะทำให้กล้วยไข่มีสีเหลืองสวยน่ารับประทาน (ทำความสะอาดเปลือกไข่ก่อนนำลงไปต้ม)


ลูกตาลเชื่อม
ส่วนผสม
-ลูกตาลสด (เลือกลูกที่ค่อนข้างอ่อน สด สังเกตุผิวของเปลือกยังนวลขาวไม่มีรอยคล้ำสีน้ำตาลเยอะ ไม่แตก สีน้ำลูกตาลก้นถุงไม่ขุ่น)
-น้ำตาลทรายขาว
-น้ำสะอาด
-ใบเตย (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ แต่เราไม่ใส่เพราะจะกลบกลิ่นของลูกตาลเสียหมด)
-กะทิ(ทำน้ำกะทิลาดหน้าลูกตาล)
-เกลือป่น

วิธีทำ
-ล้างลูกตาลในน้ำสะอาด (ล้างแค่ขั้นตอนนี้ ต่อจากนี้ไปห้ามล้างแล้วนะ ไม่งั้นลูกตาลเชื่อมที่ได้กลิ่นจะหอมน้อยลง)
-ปอกเปลือกลูกตาลให้สะอาด ผ่าเอาน้ำข้างในออกใสหม้อที่เตรียมไว้
-ใส่น้ำพอท่วมเนื้อลูกตาลทั้งหมด ประมาณ 1 ข้อนิ้วมือ
-เปิดไฟแรง ต้มจนเดือด
-ใส่น้ำตาลทราย (หวานมากน้อยตามชอบ) คนให้ละลายให้หมด
-หรีไฟให้อ่อนมากที่สุด ต้มไปเรื่อย ๆ (ประมาณ 2 ชม) หมั่นคนเป็นระยะ ๆ
-เนื้อลูกตาลที่เชื่อมได้ที่ จะใส สีขาวอมเหลืองทอง ปิดไฟ
-รอจนเย็น น้ำเชื่อมจะข้นมาก
-นำน้ำกะทะตั้งไฟอ่อน ระวังอย่าให้แตกมัน ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย (พักไว้จนเย็น)
-ตักลูกตาลใส่ถ้วยลาดด้วยน้ำกะทิ พร้อมเสิร์ฟ



ขนมไทยถึงแม้ขั้นตอนจะยุ่งยากไปสักหน่อยแต่พอเสร็จแล้ว ก็อร่อยสมกับที่ตั้งใจทำ หรือท่านไม่มีเวลาทำเองตามตลาดสดก็มีขายมีให้เลือกหลากหลายชนิด แต่รสชาติและส่วนผสม อาจจะไม่เหมือนทำทานเอง ขนมไทยอร่อยไม่แพ้ขนมต่างประเทศ