วันพุธที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2551

Phuket / Thaiherb

ประโยชน์ใกล้ตัว พืชผักสวนครัวใกล้บ้าน

ที่จริงแล้วผักสวนครัวทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น โหระพา ขิง ข่า ตะไคร้ หรือใบสระแหน่ ก็ล้วนแต่มีประโยชน์ทั้งนั้น โดยเฉพาะสรรพคุณทางยาของความเป็นสมุนไพรไทยที่ใครได้ยินแล้วจะต้องบอกว่า สุดยอด เสมอ ว่าแล้ววันนี้ก็เลยอยากให้คุณๆ ได้รู้จักกับประโยชน์ของพืชผักสวนครัวเหล่านี้กัน

ขิง
ขิงเป็นเครื่องเคียงอย่างหนึ่งในเมนูอาหารไทย แต่หลายคนส่ายหน้าเวลาเห็นขิง ส่วนหนึ่งก็เพราะกลิ่นแรงเหลือกำลัง ดังนั้นจึงเลี่ยงด้วยการเขี่ยขิงทิ้งไว้ข้างๆ จาน แต่ต่อไปนี้ถ้าอยากได้ประโยชน์มากมายจากอาหารการกิน ลองชิมขิงดูสักครั้ง

สารอาหาร
ขิงประกอบไปด้วยสารอาหารสำคัญคือ โปรตีน คาร์ดบไฮเดรต ไขมัน แคลเซียม วิตามินเอ

สรรพคุณทางยา
ประโยชน์อย่างหนึ่งที่เราจะได้จากการใช้เหง้าขิงแก่ทุบหรือบดเป็นผง แล้วชงน้ำดื่มก็คือ แก้อาหารคลื่นไส้อาเจียน แก้จุกเสียด และแน่นเฟ้อ

นอกจากนี้ขิงยังมีประโยชน์ทุกส่วน ตั้งแต่
ราก – ช่วยให้เจริญอาหาร แก้ลม แก้เสมหะ และแก้บิด
ต้น – ช่วยขับให้ผายลม แก้จุกเสียด แก้ท้องร่วง
ผล – แก้คอแห้ง เจ็บคอ แก้ตาฟาง เป็นยาอายุวัฒนะ
ใบ – แก้ฟกช้ำ แก้นิ่ว แก้ปัสสาวะขัด แก้โรคตา ฆ่าพยาธิ
ดอก – ช่วยย่อยอาหาร แก้ปัสสาวะขัด แก้โรคประสาทที่ทำให้ใจขุ่นมั่ว

ทราบหรือไม่•ขิงแก้ผมร่วง ตำราระบุว่า ให้ใช้เหง้าขิงสดมาผิงไฟพออุ่น จากนั้นให้ตำแล้วนำมาพอกบริเวณที่มีผมร่วง ทำแบบนี้ประมาณ 3 วัน วันละ 2 ครั้ง ถ้ายังไม่ได้ผลให้ทำต่อไป
•ขิงกำจัดกลิ่นกาย ถ้ารักษากลิ่นเหงื่อใต้วงแขนมาหลากหลายวิธีแล้วแต่ยังช่วยไม่ได้ ลองใช้เหง้าขิงแก่ โดยทุบแล้วคั้นเอาแต่น้ำมาทาใต้วงแขนทุกวัน จะช่วยกำจัดกลิ่นกายได้ชะงัด
•ขิงแก้ปากเหม็น โดยให้คั้นน้ำขิงผสมน้ำอุ่น เติมเกลือเล็กน้อย แล้วกลั้วปาก ฆ่าเชื่อโรค




โหระพาเป็นผักที่มีกลิ่นแรงบางคนบอกว่าหอม บางคนว่าฉุน แต่ไม่ว่าจะหอมหรือฉุน โหระพาก็เป็นส่วนประกอบในเมนูอาหารไทยมานานนม รวมทั้งมีสรรพคุณทางยามากกว่าที่เราเคยรู้จักเยอะเลย ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจถ้าโหระพาจะเป็นผักชูรส และอยู่ในอาหารอย่างแกงเผ็ด แกงเขียวหวาน เป็นต้น

สารอาหาร
โหระพาที่ใครบางคนว่าฉุน ที่จริงแล้วเป็นผักที่มีสารอาหารด้วยนะ ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน

สรรพคุณทางยา
คุณสมบัติทางยาของโหระพาท่ฃี่สุดยอดมากๆ ก็คือ ช่วยย่อยอาหารแก้การจุกเสียด แน่นท้อง เพราะสามารถช่วยขับลมในลำไส้ได้ แต่สำหรับคนที่เกลียดโหระพาเข้าไส้ คุณอาจจะแอบปลื้มที่ได้รู้ว่าผักสวนครัวอย่างโหระพาไม่ได้มีดีแค่ใบ แต่เมล็ดยังสามารถนำมาแช่น้ำให้พองรับประทานเป็นยาแก้บิดได้ด้วย

ทราบหรือไม่•โหระพารักษาโรคเข่าเสื่อมได้ ตำราแพทย์ระบุว่าให้นำต้น ใบและรากโหระพามาตำพอละเอียด ใส่เหล้าขาว 40 ดีกรีเล็กน้อย คนให้เข้ากันแล้วนำไปตั้งไปแค่พอร้อน ทิ้งไว้ให้อุ่น จากนั้ก็นำไปพอกเข่าประมาณ 10-15 นาที ทำวันละ 1-2 ครั้ง แล้วอาการจะค่อยทุเลาลง
•โบราณว่าโหระพาเป็นยาบำรุงทางเพศด้วยนะ




ข่า
ถ้าหยิบขึ้นมาเคี้ยวกันสดๆ ก็คงจะไม่ปลื้มนัก ข่าเลยกลายเป็นส่วนหนึ่งในเครื่องเทศที่ใช้ปรุงอาหารเพื่อดับกลิ่นคาวจากเนื้อสัตว์ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงเอร็ดอร่อยกับเมนูโปรดอย่างต้มข่าไก่กันนัก แต่หน่อข่าอ่อนสามารถเป็นเครื่องเคียงแสนอร่อยในเมนูน้ำพริกแบบไทยๆ ได้ด้วยนะ

สารอาหาร
สารอาหารที่จะได้จากข่าคือ คาร์โบไฮเดรต ฟอสฟอรัส แคลเซียม สฃวิตามินซี

สรรพคุณทางยา
ประโยชน์จากคุณสมบัติทางยาของข่า ให้ใช้เหง้าสดดำดให้ละเอียดผสมกับน้ำปูนใส แล้วรับประทานครั้งละครึ่งแก้ว จะช่วยขับลมแก้มฃท้องอืด ท้องเฟ้อท้องเดิน และบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนได้

ทราบหรือไม่ว่า•ประโยชน์อื่นๆ ที่ได้จากข่านอกเหนือจากการรับประทานอาหาร ได้แก่ ใช้รักษาโรคผิวหนัง กลาก เกลื้อนและแก้ลมพิษ โดยใช้เหง้าสดตำให้ละเอียดผสมกับเหล้าขาวทาบริเวณที่เป็นจนกว่าจะดีขึ้น
•ใช้ข่าไล่แมลงได้ด้วย โดยนำเหง้ามาทุบหรือตำให้ละเอียด เพื่อให้น้ำมันหอมระเหยออกมา แมลงก็จะไม่กล้ามาแหยมอีกแล้ว




ว่านหางจระเข้ หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Aloe barbadensis Mill. , Aloe vera (L.) อยู่ในวงศ์ Liliaceae ความโดดเด่นที่รู้กันทั่วไปของว่านก็คือ ว่านทรงคุณค่าชนิดนี้เป็นเสมือนโรงงานอุตสาหกรรมจากธรรมชาติ ที่เต็มไปด้วยสารเคมีที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะจากวุ้นใสๆ ที่อยู่ภายในใบอันยาวหนา ปลายแหลม ซึ่งเต็มไปด้วยสาร Aloctin , Aloimodin , Alocin , Aloin , ไกลโคโปรตีน , โพลีแซคคาไรด์ , ที่มีฤทธิ์เร่งการจับตัวของเลือด และเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์ของร่างกาย

สรรพคุณทางยา ใช้เป็นยาฆ่าเชื้อ ฝาดสมาน ห้ามเลือด ในขณะเดียวกันก็จะเป็นตัวกระตุ้นเซลล์เนื้อเยื่อให้เจริญเติบโต ทำให้แผลหายเร็วขึ้น ในปัจจุบัน ได้มีการทดลองพบว่า ว่านหางจระเข้สามารถนำมาใช้รักษาแผลธรรมดา แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ป้องกันผิวไหม้จากการถูกแสงแดดและการฉายรังสี ลดอาการอักเสบและแก้พิษแมงกะพรุน

( เนื่องจากมีสาร “บราดิไคนิเนส : Bradykininase” ที่ช่วยดูดพิษเพื่อลดอาการอักเสบ ) ฆ่าเชื้อโรค บำรุงผิวหน้า กำจัดฝ้า ด้วยสรรพคุณที่มากมายนี้เอง “ว่านหางจระเข้” จึงถูกขนานนามว่า “สมุนไพรมหัศจรรย์จากธรรมชาติ



พลู ( Piper betle Linn.) เป็นพืชสมุนไพรที่คนไทยรู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี คนสมัยก่อนมักใช้พลูกินกับหมาก เพราะเชื่อว่าช่วยให้สุขภาพของเหงือกและฟันดี มีรสเผ็ดและขมปนหวาน มีกลิ่นหอมร้อน ในประเทศอินเดีย นิยมใช้เป็นยาขับลม ยาบำรุงทั่วไป และเป็นยาระบายอ่อน ๆ น้ำคั้นจากใบสดใช้รับประทานเป็นยาขับลม แก้ปวดท้อง และใช้เป็นยาอมกลั้วคอเพื่อช่วยบรรเทาอาการไอ ส่วนน้ำมันระเหยในใบพลูมีอยู่ 0.76-2.6 % มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคกลากเกลื้อน รวมถึงการติดเชื้อ ฝี หนอง สิว การอักเสบหรือคันจากการแพ้ฝุ่น สารเคมี แมลงกัดต่อย หรือลมพิษ รวมทั้งโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง ( Chronic Dermatitis )
การนำคุณค่าของใบพลูมาผลิตในรูปแบบเจล สะดวกใช้ คุ้มค่า
เพื่อให้สะดวกกับการใช้รักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อราที่ลำตัว ขาหนีบ น้ำกัดเท้า การอักเสบหรือคันจากการแพ้ฝุ่น สารเคมี แมลงสัตว์กัดต่อย หรือลมพิษ

การดูแลรักษาความสะอาดและป้องกันตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดโรคทางผิวหนังเป็นทางที่ดีที่สุดที่พึงกระทำ ซึ่งถ้าไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้และมีปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคแล้ว “ใบพลู”สมุนไพรของไทยก็จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ปลอดภัยและมั่นใจได้



ผักสมุนไพรต่างๆ มีทั้งคุณ และโทษควรบริโภคแต่พอดี

ไม่มีความคิดเห็น: